ธุรกิจของบริษัท
บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจในห้ากลุ่มหลัก ได้แก่
ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่
ไออีซีนำเสนอสินค้าและบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีเครือข่ายครอบคลุมกว้างขวาง ตั้งแต่ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ธุรกิจโลจิสติกส์ที่ให้บริการทั้งในและนอกบริษัท ธุรกิจให้บริการหลังการขาย และธุรกิจโมบาย คอนเทนต์ ความหลากหลายของสินค้าและบริการ ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ในคุณภาพภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า
ทุกวันนี้ กว่า 80% ของยอดขายของบริษัทฯ มาจากธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการหลังการขาย
| ธุรกิจค้าส่ง | เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าหลากยี่ห้อชั้นนำ ด้วยจำนวนผู้ค้ารายย่อยกว่า 600 รายและจุดจำหน่ายกว่า 1,000 จุดทั่วประเทศ |
| ธุรกิจค้าปลีก: | มีจุดจำหน่ายปลีกจำนวน 242 แห่งทั่วประเทศ |
| ธุรกิจบริการหลังการขาย: | มีศูนย์บริการทั้งในและนอกประกันของบริษัทจำนวน 14 แห่ง ศูนย์บริการแบบแฟรนไชส์ 70 แห่งและจุดรับส่งเครื่องซ่อมกว่า 200 จุด |
ไออีซีสร้างสรรค์บริการอันทรงคุณค่าที่แตกต่างจากบริษัทคู่แข่ง โดยในปี พ.ศ. 2551 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในกิจการบริษัท ทริปเปิ้ลเพลย์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านโมบาย คอนเทนต์ อันเป็นการเสริมธุรกิจเดิมที่มีอยู่ให้มีสีสันและความบันเทิงแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ธุรกิจวิศวกรรม
ธุรกิจวิศวกรรมยังคงเป็นหน่วยธุรกิจหลักนับแต่การก่อตั้งกิจการในปี พ.ศ. 2465 ประสบการณ์อันสั่งสมมายาวนานในหลากหลายสาขาตั้งแต่ วิศวกรรมโยธา จนถึงวิศวกรรมไฟฟ้าเป็นแรกผลักดันให้ไออีซีได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจสำหรับโครงการในระดับประเทศตลอดมา
ปัจจุบัน ไออีซีเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและเครื่องวัดที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ คอมเวิร์จ คูโบต้า คัตเลอร์แฮมเมอร์ เป็นต้น โดยบริษัทฯ เป็นผู้จัดหาสินค้าและบริการข้างต้นให้กับหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง อาทิ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การจัดหาสินค้าดังกล่าว มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ
เมื่อเร็วๆนี้ ไออีซีได้ขยายสู่สินค้าวิศวกรรมที่มีศักยภาพอาทิ อุปกรณ์ประหยัดเชื้อเพลิง และอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ซึ่งสอดรับกับความห่วงใยทั่วโลกที่มีต่อภาวะโลกร้อนและการใช้พลังงาน ทั้งนี้ คาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะเป็นแหล่งรายได้ให้แก่บริษัทอีกทางหนึ่งด้วย
ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
นอกเหนือจากการเติบโตในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือ ไอซีที ได้รับการพัฒนาขึ้นจากการริเริ่มจัดตั้งบริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด (ไออีซีที) ในปี พ.ศ. 2542 โดยเป็นบริษัทผู้จัดหาและรวบรวมระบบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT System Integrator) เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น อนึ่ง บริษัทดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับไออีซี
ไออีซี เทคโนโลยีประสบความสำเร็จในโครงการหลายแห่งของรัฐ อาทิ เช่น โครงการ Integrated Billing and Customer Service System (IBACSS) ของ บมจ. กสท โทรคมนาคม มูลค่า 891 ล้านบาท ซึ่งไออีซี เทคโนโลยีในนามกิจการร่วมค้าชนะการประกวดราคาเมื่อต้นปี พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา
ก้าวย่างสำคัญสู่ธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กับบริษัทฯ คือ การลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการ Digital Content โดยการเข้าซื้อหุ้น 100% ในบริษัทออกแบบเกมส์และอนิเมชั่น ผ่านบริษัทย่อย คือ บริษัท ทริปเปิ้ลเพลย์ จำกัด ทั้งนี้ ทริปเปิ้ลเพลย์จะเป็นผู้บริหารจัดการคอนเทนต์ทั้งหมดผ่านสื่อดิจิตัลทั้งแบบ wired และ wireless ภายใต้เครือข่ายของบริษัทฯ และบุคคลภายนอก นอกจากนี้ ไออีซี กำลังรุกคืบสู่ธุรกิจบรอดแบนด์ หรืออินเตอร์เน็ทความเร็วสูงซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก
ธุรกิจพลังงาน
การใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองนานหลายทศวรรษ ก่อให้เกิดวิกฤติการณ์ด้านพลังงานในวันนี้ แหล่งสำรองพลังงานกำลังร่อยหรอ สวนทางกับกระแสการบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น เหล่านี้กำลังเป็นภัยคุกคามชีวิตของพวกเราทุกคน ดังนั้น การอนุรักษ์พลังงานเป็นวิธีการอันสำคัญอันหนึ่งในการช่วยรักษาทรัพยากรตราบเท่าที่เราจะสามารถทำได้ ในปี พ.ศ. 2551 ไออีซีและ “จงหัว” ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของไต้หวัน จึงได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วม (MOU) เพื่อดำเนินโครงการการลงทุนในการช่วยอนุรักษ์พลังงานเพื่อต่อสู่กับวิกฤติที่กำลังมาถึง
การลงทุนข้างต้นได้แก่ ระบบIntelligent Environment Network (IENet),ซึ่งช่วยให้แต่ละองค์กรสามารถใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยการเข้าควบคุม และตรวจจับการทำงานกับกระแสไฟฟ้าผ่านเว็บบน Server ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านกระแสไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรอย่างได้ผล
อนึ่ง ระบบดังกล่าวถูกสร้างขึ้นและใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศไต้หวัน โดยผู้ใช้พึงพอใจกับประสิทธิภาพเมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการใช้ระบบดังกล่าว เนื่องเพราะผู้ใช้ได้รับประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม
ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุน
ปัจจุบัน บริษัท ไออีซี แอสเสท จำกัด เป็นผู้บริหารอาคารไออีซี ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานของกลุ่มบริษัทไออีซีบนถนนรามคำแหง โดยอาคารดังกล่าวมีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร พร้อมอาคารจอดรถ
ทั้งนี้ อาคารไออีซียังเปิดพื้นที่ให้เช่าแก่บริษัทห้างร้าน สถาบันการศึกษา ภัตตาคาร โดยปัจจุบันมีผู้เช่าพื้นที่แล้วกว่า 80%
นอกจากธุรกิจข้างต้น บริษัท ไออีซี แอสเสท ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลการลงทุนในหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินกิจกรรมทางการเงินผ่านคณะกรรมการการลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง